ทุเรียน พันธุ์จันทบุรี 1 และ พันธ์ุหมอนทองที่ผสมกับละอองเกสร พันธุ์มูซานคิง (คุยนิด) ได้รับผลทุเรียนมาจากในงานเกษตรแฟร์จันทบุรีครั้งที่1ที่ผ่านมา และจากสวนประตูจันทร์ (เจ้าของสวนเป็นรุ่นน้องเกษตร ที่น่ารักมีความสุขและรักสงบมากๆ)

ได้แกะลองชิมเนื้อเปรียบเทียบ สีเนื้อ จันทบุรี1 จะเหลืองเข้มกว่า เนื้อออกไปทางนุ่ม และมีรสหวานกว่า ส่วนหมอนทอง+มูซานคิง จะมีเนื้อสีเหลืองอ่อน เนื้อเนียน และคงลักษณะกรอบนอกนุ่มใน ทั้งสองผลมีลักษณะเด่น คือเมล็ดลีบ และกลิ่นไม่รุนแรงคือมีกลิ่นละมุน สุภาพทั้งคู่ครับ….การที่ละอองเกสร มีอินธิพลต่อลักษณะผล ของผลไม้ต้นแม่นั้นมีทั้งดีและไม่ดี(เกณฑ์เปรียบเทียบในเชิงมนุษย์ที่บริโภคต้องการ) เราเรียกว่า Xenia effect หรือที่มีท่านอาจารย์ทางพืชสวน มก.เคยแปลว่า เดชบิดร ..(เมื่อ 3ปีที่แล้ว ในตอนเขียนบทความเรื่ออินทผลัมในข่าวสารพืชสวน เคยได้กล่าวไว้บ้างแล้ว) …

ความสุขกับการทำเกษตร เป็นเรื่องของคุณค่าการใช้ชีวิตของคนไทย..คุณค่าทางจิตใจ ปรุงแต่งสิ่งดีงามแด่คนที่รักเคารพ เสมือนมีของดีก็นำไปฝากคนที่เคารพนับถือ ความละเอียดอ่อนทางอารมณ์ นึกคิด สังเกต จดจำและถ่ายทอด คือคุณค่าที่ทำให้การเกษตรไทยยั่งยืนและส่งต่อเสมือนมรดกทางวัฒนธรรมไทย อันเป็นที่มาของความลุ่มลึกทางการเกษตรของคนไทย ที่อาจจะกล่าวได้ว่า ผลไม้เขตร้อนของโลกนี้ หากขาดชนชาติไทยเราวันนี้การพัฒนาให้มีคุณค่าในเอเซีย คงไม่ได้อย่างทุกวันนี้…โลกเปลี่ยนจากสงบสู่การแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น เปรียบเปรย เทียบเคียง สาดสี ปั้นแต่ง สร้างแต่ความแตกต่าง และแตกแยกในสังคม เพียงกิเลสความอยากได้อยากดีในทรัพยากรธรรมชาติของแต่ละประเทศและแต่ละหมู่เหล่า…ไร้ความละอายต่อบาปกรรม เพียงเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ การเกษตรไทยนั้นถูกกดดันจากวิถีเดิมมามากเป็นเวลากว่า50ปี ที่นักเศรษฐศาสตร์ไทย ยังแต่เพียงเปรียบเทียบตัวเลขการส่งออกผลผลิตภาคเกษตรกรรมกับการผลิตชิ้นส่วนอุตสาหกรรมที่สร้างตัวเลขเพียงมูลค่าส่วนต่าง เพราะต้องนำเข้าวัตถุดิบที่หลากหลาย ทั้งๆที่ภาคเกษตรของไทยนั้นมีการนำเข้าก็เพียงปุ๋ยจากเหมืองธรรมชาติในต่างแดนปีละเพียง5-6ล้านตัน กับสารปัจจัยทางการผลิตอื่นๆด้านศัตรูพืช อีกเพียงปีละไม่ถึง2ล้านตัน ซึ่งหากเปรียบในเชิงปริมาณผลผลิตที่ได้ก็น้อยกว่า5% นอกจากนี้ทั้งปุ๋ยและปัจจัยทางการผลิตทางเกษตรเหล่านั้นก็มีการคงอยู่ในเชิงมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมที่น้อยนิด ผิดกับภาคอุตสาหกรรมที่ทุกวันนี้สร้างแต่มลภาวะจนโลกถึงขั้นวิกฤติ กันแล้ว…อีกด้านที่น่าสนใจคือภาคเกษตรของไทยตลอดมานำความมั่นคงทางอาหารเจือจุนคนไทยอยู่ทุกมื้ออาหารทั้งคนไทยและต่างชาติที่มาเยือนล้วนชื่นชอบในอาการไทย ความมั่นคงเหล่านี้ แม้วิกฤติต้มยำกุ้งIMF หรือท่านผ่านมาวิกฤติ โควิด19 ..ประเทศไทยก็ไม่เคยขาดแคลนเรื่องอาหาร …นี่คือคุณูปการของภาคการเกษตรไทยที่มีแด่แผ่นดินไทยและคนไทยทุกๆคนจากอดีตและอนาคต…..ใกล้เลือกตั้งก็อยากฝากแก่นักการเมืองที่วาดหวังจะได้บริหารประเทศไทยว่า เลิกเสียทีกับการนำรัฐมนตรี ที่ไร้ความรู้ความเข้าใจ และไม่เคยร่ำเรียนทางการเกษตรมาบริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อีกเลยครับ ปู้ยี่ปู้ยำกันมากว่า20ปี.. ศาสตร์เพื่อแผ่นดิน ไม่ได้จำเขามาพูด มโนเอาเอง จำเป็นต้องลงมือทำอย่างยาวนาน และมุ่งมั่นด้วยศรัทธาจิตเพื่อพี่น้องเกษตรกร และคนไทย อย่างแท้จริง หยาดเหงื่อ ผิวกายที่กร้านกล้า ฟันฝ่าอุปสรรคด้วยแรงกายและใจ ศรัทธาและมีจินตนาการเพื่อแผ่นดิน …คือนิรันดร์ของเกษตรไทยครับ…