แถลงการณ์นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ฉบับที่ 1
แถลงการณ์
นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย
********************************************
ขอแสดงความยินดีต่อพี่น้องเกษตรกร (ที่องค์กรเอกชน NGO และเครือข่ายสนับสนุนการแบนสารพิษที่มีอันตรายร้ายแรง มองว่าเป็นผู้ร้ายที่ทำให้สินค้าเกษตรของไทยอาบด้วยสารพิษ การเกษตรไทยก่อให้เกิดปัญหาต่อสภาพแวดล้อมและต่อผู้บริโภค) ได้รับชัยชนะจากการที่คณะกรรมการวัตถุอันตราย ลงมติไม่ยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิด ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ ได้มีการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เมื่อวันที่ 23 พฤกษาคม 2561 โดย นายสมบูรณ์ ยินดียั่งยืน รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตราย มีกรรมการที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 24 คน ในจำนวนนี้ มีกรรมการ 17-18 คน มีมติดังนี้
- ไม่ยกเลิกการใช้สารเคมีพาราควอต คลอร์ไฟริฟอส และไกลโฟเซต แต่ให้มีการ “จำกัดการใช้ ” โดยจะให้กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปออกมาตรการควบคุมภายใน 2 เดือน ทั้งการนำเข้า การซื้อ การใช้ของเกษตรกร รวมถึงต้องอบรมให้ความรู้กับเกษตรกรเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเหตุผลที่ไม่พิจารณายกเลิก เพราะข้อมูลผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพยังไม่เพียงพอ
- ยังไม่จำเป็นต้องแก้ไขพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย เพราะสารเคมีทั้ง 3 ชนิด ยังจัดกลุ่มสารเคมีประเภทที่ 3 ที่มีการจำกัดปริมาณการใช้อยู่แล้ว
ที่ต้องแสดงความยินดีต่อพี่น้องเกษตรกรผู้มีส่วนได้-เสียในเรื่องนี้โดยตรง แต่ไม่สามารถที่จะต่อสู้ในการเข้าไปมีส่วนร่วมในการพิจารณาการยกเลิกหรือการจำกัดการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชในคณะกรรมการชุดต่าง ๆ ได้ รวมทั้งข้อเรียกร้องของพี่น้องเกษตรกรเหล่านี้ ไม่ได้รับการเผยแพร่จากสื่อมวลชนสาขาต่าง ๆ ไม่เหมือนกับองค์กรเอกชน NGO และเครือข่าย โดยเฉพาะเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืช (Thai-PAN) ที่ได้มีการออกแถลงการณ์ต่าง ๆ กดดัน ให้ข้อมูลต่อผลเสียของการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชด้านเดียวมาโดยตลอด และมติของคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่ออกมาดังกล่าว เครือข่ายเหล่านี้ยังกล่าวหาคณะกรรมการว่าเป็นผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อน โดยเฉพาะคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน เกี่ยวข้องกับบริษัทสารพิษ (แต่ไม่กล้าเปิดเผยชื่อ) ซึ่งวิธีการเช่นนี้ องค์กรเอกชน NGO และเครือข่ายได้ใช้กระบวนการนี้มาโดยตลอด ในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมา
พี่น้องเกษตรกรครับ การต่อสู้เรื่องนี้ยังไม่สิ้นสุด เราจำเป็นต้องรวมพลังกันต่อสู้กับขบวนการและกลุ่มคนเหล่านี้ไปอีกนาน โดยผมมีความเชื่อมั่นว่า หากเราต่อสู้เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ภาคเกษตรไทย และพี่น้องเกษตรกรที่เป็นผู้ไม่มีปากมีเสียงในสังคม ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เราจะไม่พ่ายแพ้ ผมพร้อมที่จะยืนหยัดอยู่กับท่านตลอด แต่เราจำเป็นจะต้องมีการแก้ไขและปรับปรุงแนวทางการใช้สารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช และปุ๋ยเคมีให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ เพื่อความปลอดภัยต่อพี่น้องเกษตรกรเอง ต่อผู้บริโภค และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ อากาศ และต่อชุมชนโดยตรง ซึ่งก็คือการปฏิบัติตามแนวทางของ GAP (การเกษตรดีที่เหมาะสม) ซึ่งผมเป็นผู้กำหนดแนวทางไว้เอง ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542
อนันต์ ดาโลดม
25 พฤกษาคม 2561
<…………………………………………………………………………………………………..>